เรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับเก้าอี้ จากคอลัมน์ smart buy ของนิตยสารRoom
เก้าอี้ดี งานก็เดิน..........
นอกจากจะทำให้การงานเจริญก้าวหน้า
เพราะสามารถนั่งได้นาน ๆ แล้ว คุณรู้อีกหรือเปล่าว่าการหาเก้าอี้ เก้าอี้ที่ดียังช่วยลดปัญหาเรื่องการปวดหลังปวดคอได้อีกด้วยดังนั้นเรามาเรียนรู้การเลือกหาเก้าอี้ทำงานดีๆ
ไว้สักตัวกันดีกว่า
อย่ามองข้ามระบบกลไก ปรับระดับขึ้น – ลง..........
ถ้าคุณมีงบประมาณสักหน่อย
และต้องการเก้าอี้ที่มีคุณภาพ
ควรเลือกดูแบบที่มีระบบแก๊ส สังเกตุง่ายๆ คือ
เวลานั่งจะรู้สึกว่าเก้าอี้เด้งได้
กระบอกแก๊สที่ดีต้องสามารถรับการน้ำหนักได้พอดีกับตัวเรา
ถ้ามีความสามารถในการรับน้ำหนักได้มากก็จะไม่ยุบตัว แต่ถ้าน้อยเกินไปก็จะยุบตัวและไม่เด้งกลับ เก้าอี้ดีๆ
บางรุ่นนั้นสามารถปรับระดับแก๊สมากหรือน้อยได้ตามต้องการ
แบบมีล้อหรือไม่มีล้อ เลือกอย่างไรให้เหมาะสม?
จะเลือกใช้แบบไหนก็ต้องกลับมาดูพฤติกรรมการทำงานของคุณก่อน ถ้าเป็นคนที่ทำงานอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนตัวไปไหนมากนัก แบบไม่มีล้อและหมุนได้อย่างเดียวก็จะน่าพอแล้ว แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบความคล่องตัวและมักขยับตัวไปโน่นมานี่อยู่บ่อยๆ
ใช้แบบมีล้อจะเหมาะสมกว่า
นอกจากนี้ต้องเลือกล้อให้ดีๆ
ด้วย โดยในปัจจุบันมีล้ออยู่ 3 ประเภท คือ
1.
ล้อที่ใช้กับพื้นไม้อย่างเดียว
2.
ล้อที่เหมาะใช้กัพื้นพรม
3. ล้ออเนกประสงค์ที่ใช้ได้ทั้งพื้นไม้และพื้นพรม
แนะนำให้เลือกแบบที่ 3 จะเหมาะที่สุด
เพราะเผื่อคุณอยากจะย้ายส่วนทำงานไปยังห้องต่างๆ ก็จะได้ไม่เป็นปัญหาภายหลัง
**(ลักษณะฐานเก้าอี้แบบไม่มีล้อจะมีปุ่มยางอยู่ที่ฐานเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนเวลาลากเก้าอี้ไปมา ส่วนแบบมีล้อนั้น ในท้องตลาดโดยทั่วไปจะเป็นแบบอเนกประสงค์
โดยที่ตัวล้อจะมียางเคลือบอยู่ เพื่อไม่ให้พื้นเกิดรอยขีดข่วนเช่นกัน)
เก้าอี้ที่ดีมี พนักพิง อย่างไร?
ถ้าแบ่งตามความสูงของพนักพิงจะมี 3 แบบ คือ
พนักพิงที่ต่ำกว่าไหล่ (Row Back)
พนักพิงที่สูงเสมอไหล่ (Mid Back)
พนักพิงที่สามารถรองรับคอได้ (Height Back)
ซึ่งจะเลือกแบบไหนก็แล้วแต่ความชอบและความหรูหรา
อย่างถ้าเป็นองค์กรต่างๆ ก็จะเลือกตามตำแหน่งหน้าที่ของพนักงาน
แต่สำหรับใช้ที่บ้าน เราก็เลือกตามรูปแบบดีไซน์ที่ถูกใจได้...ไม่มีปัญหา
เก้าอี้ดีๆ เวลานั่งแผ่นหลังต้องชิดกับพนักพิง
โดยต้องรองรับแนวกระดูกสันหลังส่วนกลาง (Lumbar Support) เมื่อเราพิงพนักน้ำหนักตัวจะถูกถ่ายไปอยู่ที่พนัก ไม่ใช่ที่ส่วนก้น ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ
เมื่อเราไม่พิงพนักแล้ว พนักจะต้องยื่นมาด้านหน้าเล็กน้อย เพราะเวลานั่งทำงานตัวเราจะต้องโน้มมาด้านหน้า
ซึ่งพนักจะช่วยรองรับแผ่นหลังของเราได้พอดี........
วัสดุ “ ไส้ใน ” ของเบาะต่างกันอย่างไร
เบาะที่เรานั่ง ภายในจะมีฟองน้ำหรือโฟมหลาย ๆ แบบ ตั้งแต่ราคาถูกมากๆ
จนถึงราคาแพงลิ่ว เก้าอี้ที่ราคาถูกฟองน้ำจะเหมือนกับที่เราใช้ล้างจาน คือมีรูพรุนขนาดใหญ่ ใช้ไปสักพักจะยุ่ยและหายไป
ที่ระดับราคาปานกลางดีขึ้นมาหน่อย
จะเป็นโฟมที่มี
ความหนาแน่นสูง (High Density Foam หรือ Molded Foam) คือมีความแข็งมากขึ้น
ไม่ยุบตัวหรือเปื่อยยุ่ยง่าย สำหรับโฟมที่ดีที่สุด
เรียกว่า Memory Foam มีคุณสมบัติเหมือนฟองน้ำที่ใช้ทำเตียงราคาแพง
จะยุบตัวลงเมื่อรับน้ำหนักตัวเราและห่อหุ้มขาเพื่อป้องกันการกดทับของเส้นเลือดที่ขาจากการนั่งนาน
ๆ ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดีอยู่เสมอ แต่ราคาอาจจะแพงกว่าแบบทั่วไปสักหน่อย
วัสดุหุ้ม มีอะไรบ้าง คุณสมบัติต่างกันอย่างไร
วัสดุหุ้มมีอยู่
4 อย่าง
คือ ผ้า หนังเทียม หนังแท้ และเป็นตาข่าย (แบบไม่ต้องหุ้ม)
คุณสมบัติของหนังแท้และหนังเทียมนั้นไม่ต่างกันเท่าไหร่
แต่หนังแท้จะให้ความสวยงามและคงทนกว่า
สำหรับความแตกต่างระหว่างผ้ากับหนังนั้น (ทั้งแท้และเทียม)
หนังจะทำความสะอาดและดูแลรักษาได้ง่ายกว่าผ้า
แต่เวลานั่งอาจจะรู้สึกร้อนและไม่สบายตัวเพราะระบายอากาศได้ไม่ดีเท่าผ้า
แถมผ้าเองก็ยังเล่นลายและมีสีให้เลือกเยอะกว่า
ส่วนตาข่ายจะเน้นดีไซน์ที่เรียวบางดูทันสมัย และยังระบายอากาศได้ดีอีกด้วย
**TIP ปัจจุบันมีผ้าหลายเกรด
ทั้งที่เป็นเส้นใยสังเคราะห์ประเภท ซินเทติก (Synthetic) ซึ่งดูแลรักษาง่าย
เพราะไม่ซับน้ำเหมือนเส้นใยธรรมชาติ
แต่เวลาของหกใส่ต้องรีบซับเพื่อไม่ให้ซึมเข้าไปถึงชั้นโฟม เพราะโฟมจะซึมน้ำไว้ทำให้เช็ดไม่ออก
ถึงตอนนั้นแล้วจะใช้ผ้าหุ้มแบบไหนก็คงช่วยอะไรไม่ได้นะ
โครงสร้างเก้าอี้มีกี่แบบ?
โครงสร้างเก้าอี้เป็นตัวบอกถึงความคงทน น้ำหนัก
รวมไปถึงความสวยงาม ทั่วไปมีอยู่ 3
แบบ คือ
1. โครงสร้างไม้อัด โดยขึ้นรูปทั้งตัวแล้วกรุโฟมทับ
มักจะเป็นรูปร่างพิเศษ ดีไซน์สวย
2. โครงสร้างพลาสติก
มีน้ำหนักเบาที่สุด แต่ไม่คงทนเท่าแบบอื่นๆ
3. โครงเหล็ก มีน้ำหนักมากที่สุด ทนทาน
แต่อาจมีข้อจำกัดในการขึ้นรูปดีไซน์ยาก ๆ
ตัวโครงของเก้าอี้ไม่ใช่ปัจจัยหลัก
ๆที่ช่วยในการตัดสินใจซื้อ อาจต้องดูปัจจัยอื่นเสริมด้วย เช่น รูปแบบ งบประมาณ
ความชอบ และที่สำคัญตัวโครงที่ขึ้นรูปต้องทำให้นั่งสบายด้วย
เท้าแขน
มีทั้งแบบ พลาสติก และแบบยาง
โดยทั่วไปต้องมีขนาดใหญ่กว่าสองนิ้วครึ่งและสามารถปรับระดับได้
เพื่อให้เข้ากับระดับสรีระของแต่ละคน
ทั้งเลื่อนขึ้นลงและกางออกสำหรับคนตัวใหญ่
ส่วนนวมนิ่ม ๆ ตรงที่เท้าแขนก็ควรจะต้องยืดหยุ่นสักหน่อย
เพื่อไม่ให้กดทับเส้นเลือดเวลาวางมือตอนพิมพ์ดีด แต่สำหรับคนที่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานคอมพิวเตอร์มาก
ๆ อาจไม่ต้องมีที่เท้าแขน หรือมีเท้าแขนแบบไม่มีที่ปรับระดับก็ได้
ก่อน ตัดสินใจ ซื้อ........
ขั้นที่ 1 ลองเลือกดูดีไซน์ที่คุณชอบ เปรียบเทียบงบประมาณกับราคา
สำหรับวัสดุไส้ในที่เราไม่สามารถมองเห็นได้นั้น ตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นง่ายๆ ว่า ถ้าเก้าอี้ราคาถูกมากๆ โฟมข้างในก็น่าจะไม่ใช่โฟมที่มีความหนาแน่นสูง
หรือ Memory Foam
ขั้นที่ 2 ทดลองนั่ง และปรับระดับต่าง ๆ
ว่าเข้ากับสรีระของคุณหรือไม่ คือ
หลังด้านล่างต้องชนกับพนัก
เท้าวางได้ราบเสมอกับพื้น
เท้าแขนวางแล้วมือเสมอกับข้อศอก
ขั้นที่ 3 สอบถามเรื่องวัสดุของเก้าอี้จากพนักงาน
เพื่อจะได้ทราบคุณสมบัติพื้นฐานของเก้าอี้ว่าดีและเหมาะสมกับการใช้งานหรือไม่
ขั้นที่ 4 ลองยกเก้าอี้
เก้าอี้ที่ดีควรจะต้องหนัก
เพราะเวลาพิงพนัก เราจะถ่าน้ำหนักหงายตัวไปด้านหลัง เก้าอี้จึงต้องมีฐานล้อที่กว้างกว่าลำตัว รวมถึงต้องแข็งแรงและหนักพอสมควร จึงจะไม่ทำให้เราหงายหลัง เก้าอี้ดี ๆ
เราจะเอนได้จนเหมือนเกือบจะนอนได้ โดยที่มั่นใจได้ว่าจะไม่ล้มหรือหงายหลัง